นักเขียนบทความทั้งหลายในยุคปัจจุบันต้องมีการปรับตัวไปตามสถานการณ์และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป หากไม่ได้ใช้บางเครื่องมืออาจจะทำให้เสียเวลาและไม่สามารถควบคุมคุณภาพได้ดีเท่าที่ควร แน่นอนว่าทัศนคติหรืออุปนิสัยในการช่างสังเกตุและละเอียดรอบคอบเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของผู้ที่จะให้บริการเขียนบทความแก่ผู้อื่นแต่หากมีเครื่องมือเทคโนโลยีเข้ามาช่วยก็จะง่ายขึ้ในการให้บริการลูกค้า วันนี้เราจึงนำเครื่องมือด้านเทคโนโลยีมาแนะนำให้ทุกๆคนได้เรียนรู้กัน มากไปกว่านั้นยังช่วยให้เราได้ข้อมูลที่เรียลไทม์ ถูกต้อง รวดเร็ว มีหลักฐานชัดเจนในการเขียนให้เกิดผลกระทบ

  • Google Trend : หนึ่งในเครื่องมือที่ Google ให้เราใช้ได้ฟรีๆโดยไม่ต้องเสียเงินคือ Google Trend เป็นเครื่องมือในการแสดงผลลัพธ์ออกมาให้เห็นในรูปแบบของ Search Term หรือก็คือ คำประโยคที่คนมักเลือกใช้ค้นหาใน Google search และเนื่องด้วยความสนใจและเทรนด์ที่เปลี่ยนไปแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์อย่างรวดเร็วทำให้บางคีย์เวิร์ดเป็นที่ต้องการและไม่ได้ต้องการเหมือนเดิมได้ง่ายขึ้นอยู่กับบริบทที่เกิดขึ้น เราสามารถเลือกคีย์เวิร์ดที่ถูกค้นหาโดยแบ่งเป็น สถานที่ที่ถูกค้นหา เช่น ประเทศไทย หรือ จังหวัดกรุงเทพเท่านั้น, ช่วงเวลาที่ถูกค้นหา เช่น ช่วงปีไหน ช่วงเดือนไหน หรือ วันไหน, เลือกประเภทของข้อมูลที่ต้องการค้นหาโดยใช้ ประเภทของคำหรือประโยคที่อยู่ในหมวดหมู่ที่เกี่ยวข้องเช่น วิทยาศาสตร์ เชิงสังคม เชิงศิลปะ เครื่องมือนี้หากผู้ให้บริการเขียนบทความสามารถนำมาปรับใช้ได้ดีก็จะติดตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
  • Buzz Sumo : เป็นเว็บไซต์ให้บริการข้อมูลค้นหาข้อมูบที่กำลังเป็นที่นิยม เพื่อนำมาพัฒนาต่อยอด การใช้งานคร่าวๆของ Buzzsumo ก็คือเข้าไปค้นหาคำที่เป็นคีย์เวิร์ดที่กำลังถูกพูดถึงโดยแบ่งมาตรวัดออกเป็น Search Volume (จำนวนที่ถูกแสดง ), Cost per click (ค่าใช้จ่ายในการกดคลิกค้นหา 1 ครั้ง ), Article Published (จำนวนบทความที่มีการใช้ Keyword ที่เราค้นหา ), Related  Keyword ( คำที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดที่เราใส่ไปแต่อาจจะถูกสนใจรองลงมา แต่ก็ทำให้การแข่งขันง่ายยิ่งขึ้น ) การนำมาใช้ประโยชน์จากผู้ให้บริการเขียนบทความก็มักจะคล้ายๆกับ Google Trend คือการหาคำที่ถูกค้นหาและมีการแข่งขันที่เหมาะสม ไม่มากไปจนแพง และ มีประสิทธิภาพและศักยภาพในการจะดันให้บทความเราดังมากยิ่งขึ้น
  • Google Keyword planner : เป็นเครื่องมือที่จะทำให้เราสามารถค้นหจำนวน Search Volumn ได้คล้ายๆกับ 2 เครื่องมือที่ผ่านมา แต่มีจุดประสงค์หลักๆในการช่วยวางแผนในการทำโฆษณาใน Google Ads โดยตรง โดยจะสามารถใช้ได้โดยการสร้างแอคเค้าท์ Google Ads ผ่านบัญชี Gmail ก็สามารถใช้ได้แล้ว ใช้สำหรับค้นหาคีย์เวิร์ดใหม่ๆ หา Search Volumn และ อื่นๆ 
  • Google Analytics : อีกหนึ่งเครื่องมือที่นำมาใช้ในการวัดประสิทธิภาพของเว็บไซต์ของเราซึ่งผู้ให้บริการเขียนบทความสามารถนำเว็บไซต์ของลูกค้ามาวิเคราะห์ ข้อมูลเชิงประชากรศาสตร์  

(Demographic ) หรือ เชิงพฤติกรรม (Behavioral) ของผู้ใช้งานในเว็บไซต์ได้ สามารถรู้ว่าผู้เข้ามาอ่านบทความเว็บไซต์เข้ามาจากช่องทางไหน เป็นลักษณะอย่างไร พฤติกรรมการใช้งานในแต่ละหน้าบทความ ใช้เวลาอ่านนานแค่ไหน เมื่อเราเข้าใจพฤติกรรมลูกค้ามากขึ้นก็จะสามารถเขียนบทความที่คู่ควร

เครื่องมือดังกล่าวสามารถนำมาปรับใช้ให้การเขียนบทความตรงใจกับผู้อ่าน จับเทรนด์ลูกใหม่ได้ทันเวลาไม่สายเกินไป และ ทำให้การวางแผนคัดเลือกคำที่จะใช้มีเหตุมีผลมากยิ่งขึ้น และยังช่วยคิดไอเดียใหม่ๆในการคิดหัวข้อหรือคีย์เวิร์ดที่จะใช้เพื่อให้ SEO เป็นไปได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย